“ดอกวิสทีเรีย” (Wisteria) หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่า “ดอกฟูจิ” มีลักษณะเป็นดอกไม้เล็กๆ จำนวนมากรวมตัวกันเป็นพวงระย้าคล้ายผลองุ่น ดอกวิสทีเรียมีความสำคัญไม่แพ้ดอกซากุระ เนื่องจากชาวญี่ปุ่นถือว่าเป็นดอกไม้วิเศษ ซึ่งในทุกๆ ปี ที่ญี่ปุ่นจะมีการจัดเทศกาลชมดอกวิสทีเรีย เป็นเทศกาลที่ได้รับความสนใจจากคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว ไม่แพ้การไปชมดอกซากุระเลยค่ะ
ทำความรู้จักดอกวิสทีเรีย!!!
ดอกวิสทีเรีย (Wisteria) หรือ ดอกฟูจิ เป็นพืชตระกูลถั่ว ที่ออกดอกเป็นสีม่วง ลักษณะเป็นพวงห้อยลงมา มีกลิ่นหอม เติบโตได้ดีแม้ดินมีสารอาหารต่ำ เถาของมันจะเลี้ยวเกี่ยวพันไปกับหลัก ขึ้นไปได้สูงถึง 20 เมตร และแผ่ขยายออกด้านข้างได้ถึง 10 เมตร ถือเป็นดอกไม้ที่พบเห็นได้ทั่วประเทศญี่ปุ่น แม้ว่าจะเป็นดอกไม้ที่สวยงามขนาดนี้ ต้นฟูจิก็มีพิษด้วยนะ แต่ไม่ปรากฏว่ามีผลร้ายแรงถึงชีวิตค่ะเป็น ลักษณะของดอกวิสทีเรียจะมีพุ่มระย้าลงมาอย่างสวยงามและจะมีสีม่วงเข้ม สีม่วง สีชมพู หรือขาวค่ะ เห็นหน้าตาสวยงามแบบนี้แต่เมล็ดของดอกวิสทีเรียสายพันธุ์จีนนั้นมีพิษด้วยนะคะ
อยากดูดอกวิสทีเรีย ต้องไปช่วงไหน ?
ดอกวิสทีเรียที่ญี่ปุ่นจะบานประมาณกลางเดือนเมษายนไปจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม แล้วแต่พื้นที่
ต้องไปที่ไหน ?
สถานที่ ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเรื่องของการชมดอกวิสเทอเรีย คือที่ คาวาจิ ฟูจิ การ์เดน จ.ฟุกุโอกะ ไฮไลท์เด็ดอยู่ที่ตรงบริเวณ อุโมงค์ดอกวิสทีเรีย เป็นทางเดินยาว 80 เมตร และ 220 เมตร บริเวณนี้เองที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอยากมาชมความสวยงามด้วยตัวเอง จะมีดอกวิสทีเรียในเฉดสีที่แตกต่างกัน 22 สายพันธุ์ รวมทั้งสิ้น 150 ต้น ออกดอกบานสะพรั่งห้อยระย้าไปจนสุดทางของอุโมงค์ บางดอกห้อยระย้าให้เห็นชัดเจนในระดับสายตา แถมยังส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณ และที่เด็ดสุดก็คือ ต้นวิสทีเรียอายุกว่า 100 ปี ที่อยู่ตรงสุดทางเดิน ซึ่งความสวยงามของดอกไม้ที่นี่ ทำให้สวน Kawachi Fuji Garden ได้รับความนิยมมากในแต่ละปี